วิตามินพี – ไบโอฟลาโวนอยด์
Vitamin P – Bioflavonoids
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับวิตามินพี
วิตามินพี (Vitamin P) – ไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) นั้นมาจากคำว่าตัวอักษรพีของคำว่า Permeability ที่แปลว่าการซึมผ่าน โดยเราอาจจะเรียกมันว่า ตัวควบคุมการซึมผ่านของเส้นเลือดฝอย หรือเราอาจได้ยินวิตามินพีกันในชื่ออื่นๆ เช่น เฮสเพอริดิน ซีคอมเพล็กซ์ ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ หรือ รูติน
วิตามินพีเป็นวิตามินชนิดที่ละลายในน้ำ วิตามินพีจะประกอบไปด้วย เฮสเพอริดิน ซิตริน รูติน ฟลาโวนอลและฟลาโวน เราอาจจะเคยได้ยินคำว่า ฟลาโวนอยด์ ซึ่งคือวิตามินพีประเภทหนึ่งซึ่งเป็นสารสีเหลืองและสีส้มที่พบได้ในผลไม้รสเปรี้ยว เช่นผลไม้ในกลุ่มส้ม เป็นต้น
วิตามินพีเป็นสารอาหารสำคัญที่ทำงานเสริมกับวิตามินซี เป็นตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพวิตามินซี
ปริมาณวิตามินพีที่แนะนำต่อวัน
ในทางการแพทย์ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการว่าควรรับประทานวิตามินพีวันละเท่าไร แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผลวิจัยแนะนำว่าควรรับประทานวิตามินพีหรือไบโอฟลาโวนอยด์เพิ่มปริมาณอย่างน้อย 100 มิลลิกรัม เมื่อรับประทานวิตามินซีปริมาณ 500 มิลลิกรัม
ประโยชน์ของวิตามินพี
- วิตามินพีหรือไบโอฟลาโวนอยด์เป็นวิตามินสำคัญที่จำเป็นต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมวิตามินซี และยังช่วยวิตามินซีในการสร้างความแข็งแรงให้กับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมการทำงานของวิตามินซี และป้องกันวิตามินซีจากการถูกทำลายโดยปฏิกิริยาออกซิเดชัน
- ชะลอวัย บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสจากคุณสมบัติการเสริมประสิทธิภาพวิตามินซี
- คุณสมบัติสำคัญของไบโอฟลาโวนอยด์คือการบำรุงความแข็งแรงให้กับผนังหลอดเลือด เส้นเลือดฝอย ป้องกันการเกิดรอยแผลฟกช้ำ
- อีกหน้าที่สำคัญหนึ่ง วิตามินพียังช่วยควบคุมการดูดซึมสารอาหารต่างๆผ่านผนังหลอดเลือดให้ทำงานได้เป็นปกติ
- รักษาและป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อ ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
- แก้บรรเทาอาการปวดหัว วิงเวียนที่มีสาเหตุมาจากโรคในส่วนของหูชั้นใน
- ลดอาการบวมน้ำในร่างกาย
โรคและอาการขาดวิตามินพี
- เส้นเลือดฝอยเปราะขาดง่าย เลือดกำเดาไหลง่าย
- ปัญหาเลือดออกตามไรฟัน
- ผิวพรรณไม่สดใส
- สุขภาพอ่อนแอ เป็นหวัดง่าย
แหล่งอาหารธรรมชาติที่พบวิตามินพี
ในผลไม้รสเปรี้ยวจะพบวิตามินพีได้มาก และแหล่งอื่นๆเช่น ในส่วนกากใยสีขาวของผลไม้ประเภท มะนาว ส้ม แอพริคอต เชอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ เกรปฟรุ้ต โรสฮิป แป้งบัควีท เป็นต้น
ประเภทอาหารเสริมวิตามินพี
วิตามินพีหรือไบโอฟลาโวนอยด์มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบแยกเดี่ยว และแบบสูตรรวมผสมกับวิตามินซี ซึ่งจะเรียกว่า ซีคอมเพล็กซ์
ปริมาณที่นิยมรับประทานกันคือ เฮสเพอริดินและรูตินปริมาณอย่างละ 100 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 3 มื้อ และในส่วนของไบโอฟลาโวนอยด์มักระบประทานในปริมาณ 500 มิลลิกรัมต่อการรับประทานเฮสเพอริดินและรูตินปริมาณ 50 มิลลิกรัม
การรับประทานวิตามินพีเกินปริมาณ
ยังไม่มีผลวิจัยชี้ว่าการรับประทานวิตามินพีเกินปริมาณจะส่งผลเสียใดๆต่อร่างกาย
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ในอาหารเสริมวิตามินซีทุกรูปแบบ จะสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นหากมีส่วนผสมของวิตามินพีหรือไบโอฟลาโวนอยด์
- วิตามินพีจะไม่ถูกกับแสง ความร้อน ออกซิเจนในบรรยากาศ น้ำ การปรุงประกอบอาหาร และการสูบบุหรี่
ผู้ใดควรรับประทานวิตามินพีเสริม
- ผู้หญิงวัยที่หมดประจำเดือนหรือวัยทอง การรับประทานวิตามินพี-ไบโอฟลาโวนอยด์กับวิตามินดีเสริมจะช่วยลดอาการวัยทองต่างๆ โดยเฉพาะอาการร้อนวูบวาบให้น้อยลงได้
- ผู้ที่มีเลือดออกตามไรฟัน หรือมีเลือดซึมไหลออกจากเหงือกในขณะแปรงฟันบ่อยๆ ควรรับประทานเสริม
- ผู้ที่เกิดรอยฟกช้ำง่าย ควรรับประทานวิตามินพี – ไบโอฟลาโวนอยด์ ที่มีส่วนประกอบของรูตินและเฮสเพอริดิน ร่วมกับวิตามินซี จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับผนังหลอดเลือด ลดปัญหาอาการฟกช้ำดำเขียวให้น้อยลงได้