อาหารเสริมน้ำมันตับปลาฉลาม
Shark Liver Oil – Squalene
น้ำมันตับปลาฉลาม สควอลีน
DHC Shark Liver Oil Squalene
อาหารเสริมน้ำมันตับปลาฉลาม
โปรโมชันพิเศษ ราคาเต็ม 890 เหลือ 510 บาท 1 ซองบรรจุ 120 เม็ด ทานวันละ 4 เม็ด ทานได้1เดือน สั่งซื้อโทร/ไลน์ไอดี 0927964477
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับน้ำมันตับปลาฉลาม
น้ำมันตับปลาฉลาม (Shark Liver Oil – Squalene) คืออาหารเสริมที่นำไปใช้ในการบำบัดรักษาทางยาหลายแขนง และยังมีผลในการบำรุงความงามและสุขภาพหลายด้าน มีสารอาหารที่สำคัญที่เรียกว่า สควอลีน (Squalene)
ปลาฉลามสายพันธุ์ที่น้ำมาสกัดได้มีเพียง 3 กลุ่ม คือปลาฉลามน้ำลึก ปลาฉลามหลังหนาม และปลาฉลามยักษ์น้ำอุ่น-บาสกิ้นเท่านั้น โดยปลาฉลามสายพันธุ์เหล่านี้เนื่องจากต้องผลิตออกซิเจนไปใช้หล่อเลี้ยงร่างกายในปริมาณสูง จึงมีน้ำหนักของตับมากถึงหนึ่งในสี่ของน้ำหนักตัวทั้งหมด
ในปัจจุบันนิยมรับประทานในการบำรุงสุขภาพ การชะลอวัยและความงามทั่วไป และแนะนำเป็นพิเศษในผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยเฉพาะในกลุ่มที่กำลังเข้ารับการรักษาทางการฉายแสงหรือเคมีบำบัด เนื่องจากน้ำมันตับปลาฉลามมีคุณสมบัติช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษาดังกล่าว และช่วยฟื้นฟูและปกป้องเซลล์ดีจากการถูกทำลาย
ประโยชน์ของน้ำมันตับปลาฉลาม
- ช่วยชะลอวัย กระตุ้นการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณ
- ป้องกันการติดเชื้อโรค ลดการอักเสบ กระตุ้นการทำงานของภูมิต้านทานในร่างกายให้ดีขึ้น
- บำบัดรักษาฟื้นฟูในผู้ป่วยโรคมะเร็ง ลดผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดและการฉายแสง มีคุณสมบัติปกป้องเซลล์ไขกระดูกจากการทำเคมีบำบัด
- การมีการนำไปใช้ในผู้ป่วยมะเร็งมาอย่างยาวนานในประเทศสวีเดนและนอร์เวย์ โดยในน้ำมันตับปลาฉลามมีสารอาหารสำคัญ 3 ชนิด คือ สควอลีน สควอลามีน และ อัลคินกลีเซอรอล ที่มีคุณสมบัติให้ฤทธิ์ต้านมะเร็ง
- ใช้ฟื้นฟูในผู้ป่วยลูคีเมีย
- บรรเทาอาการปวดข้อ ข้อบวม ข้ออักเสบ
- บำรุงเส้นผม
แหล่งอาหารธรรมชาติที่พบ
น้ำมันตับปลาฉลามหาได้ในปลาฉลามน้ำลึกนับร้อยสายพันธุ์ โดยแต่ละชนิดมีความเข้มข้นแตกต่างกัน น้ำมันตับปลาฉลามนี้จะหาได้เฉพาะในปลาฉลามน้ำลึกที่มากกว่า 1,500 เมตรต่ำกว่าระดับน้ำทะเลเป็นต้นไป เนื่องในปลาฉลามกลุ่มนี้จะอยู่บริเวณที่มีออกซิเจนน้อย ร่างกายจึงจำเป็นต้นผลิตออกซิเจนได้สูงกว่าปลาฉลามทั่วไป
ปริมาณน้ำมันตับปลาฉลามที่แนะนำต่อวัน
ปริมาณที่เหมาะสมจะค่อนข้างแตกต่างกันตามอายุเพศวัย และปัญหาสุขภาพที่ต้องการบำรุงรักษา การรับประทานสารสกัดจากน้ำมันตับปลาฉลามจึงยังไม่กำหนดปริมาณที่เหมาะสมอย่างชัดเจน
การรับประทานน้ำมันตับปลาฉลามเกินปริมาณ
ยังไม่มีการรายงานความเป็นพิษใดๆจากการรับประทานน้ำมันตับปลาฉลามเกินปริมาณ แต่อาจมีผลข้างเคียงในผู้ที่แพ้ เช่น อาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย มวนท้อง เป็นต้น
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ควรเลือกรับประทานอาหารเสริมสารสกัดจากน้ำมันตับปลาฉลามที่น่าเชื่อถือ สารสกัดจากปลาฉลามของแท้มีราคาค่อนข้างสูง ควรระวังหากมีราคาที่ถูกเกินไปและมีการผลิตที่ขาดความน่าเชื่อถือ เนื่องจากบางแหล่งอาจได้สารสกัดที่ไม่มีคุณภาพและเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
ผู้ใดควรรับประทานน้ำมันตับปลาฉลามเสริม
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยเฉพาะในกลุ่มที่เข้ารับการรักษาทางเคมีบำบัดและการฉายแสง
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันบกพร่อง ติดเชื้อง่าย เป็นหวัดง่าย ต้องการเสริมภูมิต้านทาน
- ผู้ที่ต้องการชะลอวัย
- ผู้ที่ต้องการบำรุงสุขภาพ
- ผู้ที่ต้องการบำรุงผิว
- ผู้ป่วยโรคลูคีเมีย
- ผู้ที่เป็นโรคข้อบวม ข้ออักเสบ มีอาการปวดข้อเป็นประจำ
- ผู้ที่ต้องการบำรุงเส้นผม
หมายเหตุ
- ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดไม่ควรรับประทานน้ำมันตับปลาฉลามทั้งก่อนและหลังผ่าตัดอย่างน้อย 3 อาทิตย์
- ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลสูงและไขมันในเลือดสูงไม่ควรรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของสควอลีน เนื่องจากอาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้นได้
- ผู้ที่แพ้อาหารทะเลควรหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำมันตับปลาฉลาม
- หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานน้ำมันตับปลาฉลาม
อาหารเสริมที่แนะนำรับประทานร่วมกับน้ำมันตับปลาฉลามหรือมีคุณสมบัติคล้ายกัน
- สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants)